ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและป้องกันเหงื่อกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในขณะที่เราก้าวเข้าสู่ปี 2025 ด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสุขอนามัยส่วนบุคคล อุตสาหกรรมนี้จึงพร้อมสำหรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง บทความนี้จะเจาะลึกถึงแนวโน้มล่าสุดของตลาด พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับผู้ซื้อทางธุรกิจ รวมถึงผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่งในอุตสาหกรรมความงามและการดูแลส่วนบุคคล
สารบัญ:
- ภาพรวมตลาด
– การเติบโตของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายอเนกประสงค์: การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
– การดมกลิ่นอย่างยั่งยืน: การปฏิวัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
– เหนือกว่า BO: แนวทางองค์รวมในการควบคุมกลิ่น
– สรุป: อนาคตของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย
ภาพรวมของตลาด

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตของตลาด
ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและป้องกันเหงื่อทั่วโลกเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามรายงานของ Research and Markets ตลาดนี้มีมูลค่า 30.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 และคาดว่าจะเติบโตด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) 8.2% จนถึงปี 2028 การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยปัจจัยหลายประการ รวมถึงความตระหนักรู้ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสุขอนามัยส่วนบุคคล ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและออร์แกนิก และการแนะนำสูตรและบรรจุภัณฑ์ที่สร้างสรรค์
การเปลี่ยนแปลงความชอบของผู้บริโภค
แนวโน้มที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งในตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและป้องกันเหงื่อคือการเปลี่ยนแปลงไปสู่ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและปราศจากอะลูมิเนียม ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นและมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียม ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและปราศจากสารเคมีอันตรายเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ กระแสความงามสะอาดซึ่งเน้นการใช้ส่วนผสมที่ไม่เป็นพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์
นวัตกรรมยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและป้องกันเหงื่อ บริษัทต่างๆ ลงทุนอย่างหนักในการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ให้ประสิทธิภาพและความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น Degree แบรนด์ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายชื่อดังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Degree Advanced Antiperspirant ในปี 2022 ซึ่งมาพร้อมไมโครเทคโนโลยีล้ำสมัย 72 ชั่วโมงเพื่อควบคุมเหงื่อและกลิ่นอย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์นี้ซึ่งพัฒนาโดย Unilever ได้รับการรับรองทางคลินิกแล้วว่าให้การปกป้องที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายทั่วไป จึงไม่จำเป็นต้องทาซ้ำบ่อยๆ
การแบ่งส่วนตลาดและข้อมูลเชิงลึกระดับภูมิภาค
ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและป้องกันเหงื่อแบ่งตามประเภทผลิตภัณฑ์ ช่องทางการขาย และภูมิภาค ประเภทผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สเปรย์ฉีด โรลออน ครีม เจล และอื่นๆ ช่องทางการขายมีตั้งแต่ซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตไปจนถึงร้านค้าเฉพาะทางและแพลตฟอร์มออนไลน์ ในระดับภูมิภาค อเมริกาเหนือยังคงเป็นตลาดที่สำคัญ โดยเน้นหนักไปที่สุขอนามัยส่วนบุคคลและการดูแลสุขภาพ ภูมิภาคนี้มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายและมีการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและแบรนด์ใหม่ๆ ยุโรปเป็นภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายในปี 2023 ขณะที่เอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดในช่วงคาดการณ์
โดยสรุป ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและป้องกันเหงื่อมีแนวโน้มเติบโตและสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยความตระหนักรู้ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นและความต้องการผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ ธุรกิจในอุตสาหกรรมความงามและการดูแลส่วนบุคคลจึงมีโอกาสมากมายที่จะใช้ประโยชน์จากแนวโน้มเหล่านี้ โดยการปรับตัวให้เข้ากับพลวัตของตลาดและความต้องการของผู้บริโภค ผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่งสามารถวางตำแหน่งตัวเองเพื่อความสำเร็จในตลาดที่เปลี่ยนแปลงนี้
การเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายอเนกประสงค์: การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและป้องกันเหงื่อกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เนื่องมาจากผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายนอกเหนือจากการควบคุมกลิ่น เทรนด์นี้กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาด โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์มากกว่าแค่การแก้ปัญหากลิ่นกาย แต่ยังช่วยดูแลสุขภาพผิว อารมณ์ และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ขยายขอบเขตเกินขอบเขตการใช้งานแบบดั้งเดิม
แนวโน้มที่น่าจับตามองที่สุดประการหนึ่งคือการขยายตัวของการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายนอกเหนือจากการใช้ใต้วงแขนแบบเดิมๆ ตามรายงานของ Mintel พบว่าผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา 19% ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อและระงับกลิ่นกายกับบริเวณอื่นๆ นอกเหนือจากใต้วงแขน การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นและความต้องการผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อที่เจาะจง แบรนด์ต่างๆ เช่น O Positiv ในสหรัฐอเมริกาได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ เช่น URO Intimate Deodorant ซึ่งช่วยจัดการกับเหงื่อและกลิ่นในบริเวณที่บอบบาง ทำลายภาพลักษณ์ด้านลบที่เกี่ยวข้องกับเหงื่อที่ร่างกาย
การรวมคุณประโยชน์จากการดูแลผิว
ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ดับกลิ่นอีกต่อไป แต่ยังมีการพัฒนาสูตรให้มีคุณสมบัติในการดูแลผิวอีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ความชุ่มชื้น บรรเทาอาการระคายเคือง และปรับปรุงเนื้อผิวให้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย Dove Vitamin Care+ ที่ปราศจากอะลูมิเนียมผสมผสานวิตามินบี 3 กับเปปไทด์ต่อต้านจุลินทรีย์ (AMPs) ช่วยให้ผิวต่อสู้กับกลิ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติพร้อมมอบคุณสมบัติในการดูแลผิว แนวโน้มนี้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์หลายประการในการใช้งานครั้งเดียว
ความเป็นอยู่ทางอารมณ์และสุขภาพจิต
ความเชื่อมโยงระหว่างการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายกับสุขภาพจิตกำลังมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น โดยจากข้อมูลของสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน พบว่าผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริการ้อยละ 43 รู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว แบรนด์ต่างๆ จึงมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาด้านสุขภาพจิตจากเหงื่อ ตัวอย่างเช่น W by Jake Paul นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมเหงื่อเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความรู้สึกสงบและมั่นใจ ตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ของผู้บริโภค
การดมกลิ่นอย่างยั่งยืน: การปฏิวัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย โดยผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แนวโน้มนี้ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมด้านสูตร บรรจุภัณฑ์ และการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยรวม
สูตรธรรมชาติและสารชีวภาพ
การถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพของสารระงับกลิ่นกายที่ทำจากอะลูมิเนียมทำให้แบรนด์ต่างๆ หันมาพิจารณาทางเลือกจากธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น แบรนด์ 3rd Universe ของจีนใช้ดินไดอะตอมไมต์ในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบบใช้ทั่วร่างกายเพื่อดูดซับเหงื่อตามธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงมาใช้สารชีวภาพและกลิ่นจากธรรมชาติไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
บรรจุภัณฑ์ปลอดขยะ
ความพยายามเพื่อความยั่งยืนยังเห็นได้ชัดในนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ แบรนด์ต่างๆ กำลังเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวและหันมาใช้บรรจุภัณฑ์แบบหมุนเวียน ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบบเติมซ้ำได้ทั่วโลกคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) 5.57% ภายในปี 2030 ตามข้อมูลของ Fortune Business Insights ผลิตภัณฑ์เช่นหินระงับกลิ่นกาย ซึ่งสามารถใช้งานได้นานกว่าหนึ่งปีและมีจำหน่ายในจานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ กำลังได้รับความนิยม แนวทางนี้ช่วยลดขยะและสอดคล้องกับกระแสความงามแบบลดขยะเป็นศูนย์
เทคโนโลยีการเปิดใช้งานด้วยความร้อน
นวัตกรรมในเทคโนโลยีที่กระตุ้นด้วยความร้อนกำลังได้รับความนิยมในตลาดเช่นกัน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ใช้กลไกการต่อต้านกลิ่นตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น เปปไทด์ต่อต้านจุลินทรีย์ เพื่อให้การปกป้องที่ยาวนาน ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย Vitamin Care+ ของ Dove เป็นตัวอย่างที่ดีที่ผสมผสานเทคโนโลยีที่กระตุ้นด้วยความร้อนเข้ากับคุณประโยชน์ในการดูแลผิว เพื่อนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับกลิ่นและเหงื่อ
เหนือกว่า BO: แนวทางองค์รวมในการควบคุมกลิ่น

ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายกำลังพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาไม่เพียงแค่กลิ่นกาย แต่ยังรวมถึงสาเหตุและผลกระทบที่กว้างขึ้นของเหงื่อและสุขอนามัยด้วย แนวทางแบบองค์รวมนี้นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้การดูแลอย่างครอบคลุม
สูตรสารพัดประโยชน์
ข้อจำกัดทางการเงินและความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายเป็นแรงผลักดันความต้องการผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบบมัลติฟังก์ชัน ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย Coco Cloud Ingrown Prevention and Brightening ของ Truly ไม่เพียงแต่ควบคุมกลิ่นเท่านั้น แต่ยังป้องกันขนคุดและปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสอีกด้วย แนวทางแบบมัลติฟังก์ชันนี้ดึงดูดผู้บริโภคที่มองหาคุณค่าและประสิทธิภาพในการดูแลส่วนตัว
อาหารเสริมทางปากเพื่อควบคุมกลิ่น
แนวทางใหม่ ๆ ในการควบคุมกลิ่นก็กำลังเกิดขึ้น เช่น อาหารเสริมทางปากที่ช่วยทำความสะอาดร่างกายจากสารพิษก่อนขับออกทางผิวหนัง Deos ในสหรัฐอเมริกานำเสนออาหารเสริมทางปาก Body Deodorizer ที่อ้างว่าสามารถจัดการกับกลิ่นจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งเป็นวิธีแก้ไขปัญหากลิ่นตัวแบบใหม่
จัดการกับปัญหาสุขภาพจิต
แบรนด์ต่างๆ ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพจิตและเหงื่อ จึงทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการทั้งทางร่างกายและอารมณ์ ด้วยระดับความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นที่ผ่อนคลายและช่วยให้ผ่อนคลายจึงได้รับความนิยมมากขึ้น แนวโน้มนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตอบสนองความต้องการแบบองค์รวมของผู้บริโภคในตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย
สรุป: อนาคตของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและป้องกันเหงื่อมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งขับเคลื่อนโดยกระแสที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานได้หลากหลาย ความยั่งยืน และการดูแลแบบองค์รวม ขณะที่แบรนด์ต่างๆ ยังคงสำรวจสูตรและโซลูชันบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ ตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ครอบคลุม ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย และสอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้เปิดโอกาสสำคัญให้ธุรกิจต่างๆ สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ และตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค”