คำถามสั้นๆ: คุณเคยได้กลิ่นอะไรบางอย่างที่ทำให้คุณหวนคิดถึงความทรงจำในวัยเด็กหรือไม่ อาจเป็นกลิ่นส้มที่เพิ่งปอกเปลือกหรือกลิ่นดอกไม้ที่ลอยมาตามทางเดิน กลิ่นต่างๆ สามารถช่วยเชื่อมโยงผู้คนกับอารมณ์และช่วงเวลาต่างๆ ได้ดีกว่าสิ่งอื่นใด
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า กลิ่นที่ผู้คนชื่นชอบอาจหายไป การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและปัจจัยอื่นๆ คุกคามพืชดอกเกือบครึ่งหนึ่งของโลก เป็นเรื่องที่น่ากลัวใช่ แต่เพราะเหตุนี้ กระแส Scent Surrections จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่
ปัจจุบันนักวิจัยสามารถสร้างกลิ่นของพืชหายากหรือสูญพันธุ์ไปแล้วได้โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์ที่ชาญฉลาด เช่น การสกัด DNA และเทคโนโลยีชีวภาพ แนวโน้มนี้เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์และนวัตกรรม และกำลังเขย่าวงการกลิ่นหอมไปแล้ว
สิ่งที่เจ๋งคือ นี่ไม่ใช่จินตนาการในอนาคต แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ และในฐานะผู้ค้าปลีก นี่อาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการนำเสนอสิ่งใหม่และมีความหมายให้กับลูกค้าของคุณ
อ่านต่อไปเพื่อค้นพบทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเทรนด์ Scent Surrection สำหรับปี 2025
สารบัญ
น้ำหอมที่ผลิตในห้องแล็ปเป็นยังไง?
3 สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนจะเข้าสู่กระแสนี้
1. ความยั่งยืนยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก
2. การก้าวข้ามกรอบความคิดแบบเดิมๆ ที่ว่า “ผลิตในห้องแล็ป”
3. เข้าใจว่าเรื่องราวช่วยขายเทรนด์นี้ได้อย่างไร
เคล็ดลับที่จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถก้าวเข้าสู่กระแสนี้ได้
1. ค้นหาคู่ค้าที่เหมาะสม
2. ขยายสายผลิตภัณฑ์
3. ให้ความรู้แก่ลูกค้า
4. เน้นเรื่องราว
5. ซื่อสัตย์เกี่ยวกับกระบวนการ
บรรทัดล่าง
น้ำหอมที่ผลิตในห้องแล็ปเป็นยังไง?

โอเค แล้วสิ่งนี้ทำงานอย่างไร พืชแต่ละชนิดมี "สูตรกลิ่น" เฉพาะที่ซ่อนอยู่ใน DNA ของมัน นักวิทยาศาสตร์กำลังคิดค้นวิธีอ่านและทำซ้ำสูตรเหล่านั้นในห้องทดลอง ดังนั้น แม้ว่าดอกไม้จะไม่ได้บานมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ กลิ่นของมันจะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป เหมือนกับจูราสสิคพาร์ค แต่น่ากลัวน้อยกว่าและมีกลิ่นที่ดีกว่ามาก
ยกตัวอย่างเช่น มะนาว Mêdog ผลไม้โบราณจากทิเบตชนิดนี้มีกลิ่นหอมของดอกไม้และส้ม ซึ่งมะนาวสมัยใหม่ไม่มี บริษัทต่างๆ เช่น Ginkgo Bioworks กำลังใช้ DNA จากพืชชนิดนี้เพื่อสร้างกลิ่นหอมที่เหมือนจริง 100% แต่ไม่จำเป็นต้องเก็บเกี่ยวจากพืชจริง
ผู้ค้าปลีกสามารถใช้ประโยชน์จากกระแสนี้ได้โดยการขายน้ำหอม เทียนหอม หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีกลิ่นหอมที่บอกเล่าเรื่องราว ลองนึกภาพแคมเปญการตลาดที่บอกว่า “กลิ่นหอมนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกไม้ที่ไม่เคยพบเห็นในป่ามานานหลายร้อยปี” นั่นคือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้คนจดจำและเชื่อ
3 สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนจะเข้าสู่กระแสนี้
1. ความยั่งยืนยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก

ความยั่งยืนเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่เทรนด์นี้มีความสำคัญ การเก็บเกี่ยวส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อผลิตน้ำหอมฟังดูดีในทางทฤษฎี แต่กลับส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ลองคิดดูสิ ระบบนิเวศทั้งหมดได้รับผลกระทบเมื่อผู้ผลิตเก็บเกี่ยวพืชมากเกินไป นอกจากนี้ เมื่อทรัพยากรเหล่านี้มีน้อยลง ราคาก็สูงขึ้นด้วย ถือเป็นสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายเสียประโยชน์
น้ำหอมที่ผลิตในห้องแล็ปช่วยพลิกสถานการณ์ได้ เพราะน้ำหอมเหล่านี้ยั่งยืนกว่า ผลิตได้ถูกกว่า และไม่ต้องพึ่งพาระบบนิเวศที่เปราะบาง บริษัทอย่าง Sensegen พิสูจน์แล้วว่าน้ำหอมเหล่านี้มีกลิ่นหอมไม่แพ้ (หรืออาจจะดีกว่า) น้ำหอมแบบดั้งเดิม
ประเด็นสำคัญคือ ลูกค้า โดยเฉพาะผู้ซื้อที่อายุน้อย ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากกว่าที่เคย พวกเขาต้องการทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่ซื้อนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโลก และผู้ค้าปลีกสามารถใช้ประเด็นนี้ให้เป็นประโยชน์ได้โดยเสนอผลิตภัณฑ์กลิ่นหอมที่หอมน่าอัศจรรย์และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์
2. การก้าวข้ามกรอบความคิดแบบเดิมๆ ที่ว่า “ผลิตในห้องแล็ป”

ถึงเวลาต้องพูดถึงประเด็นสำคัญแล้ว บางคนได้ยินคำว่า “ผลิตในห้องแล็ป” แล้วคิดทันทีว่า “ปลอม” ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา แต่เป็นเพราะว่าผู้คนถูกปลูกฝังให้เชื่อแบบนั้น ของธรรมชาติดูดีกว่า แม้ว่าจะไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปก็ตาม
ความจริงก็คือน้ำหอมเหล่านี้เหมือนกับของจริงทุกประการ นักวิทยาศาสตร์ลอกเลียนโมเลกุลที่ประกอบเป็นกลิ่นธรรมชาติ ดังนั้นกลิ่นนี้จึงเป็นกลิ่นจริงที่สุด แล้วผู้ค้าปลีกจะอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจได้อย่างไร
สำหรับผู้เริ่มต้น ให้ทำให้มันเรียบง่าย เช่น "น้ำหอมกลิ่นนี้มีกลิ่นเหมือนกับต้นไม้ดั้งเดิมทุกประการ แต่ผลิตขึ้นโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม" ข้อดีก็คือหากผู้ค้าปลีกเชื่อมโยงกลิ่นเข้ากับเรื่องราว เช่น "น้ำหอมกลิ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกไม้ที่หายไปเมื่อ 200 ปีก่อน" ผู้คนชื่นชอบการตลาดแบบนี้
3. เข้าใจว่าเรื่องราวช่วยขายเทรนด์นี้ได้อย่างไร

ผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ละเลยเรื่องนี้: กลิ่นหอมไม่ได้มีแค่กลิ่นหอมเท่านั้น น้ำหอมที่ดีที่สุดมักใช้เวลาสักหน่อยในการเล่าเรื่อง น้ำหอมที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แต่ละกลิ่นมีเรื่องราวเบื้องหลัง และนั่นคือสิ่งที่ดึงดูดผู้คน
มาดูมะนาว Mêdog อีกครั้ง ไม่ใช่แค่มะนาวธรรมดาทั่วไป แต่เป็นผลไม้โบราณที่มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ซ่ง และกลิ่นของมันก็กำลังกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผู้ค้าปลีกสามารถใช้เรื่องราวเช่นนี้เพื่อสร้างประสบการณ์ อาจเป็นการจัดแสดงเล็กๆ ในร้านหรือโพสต์สนุกๆ บน Instagram ก็ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ทำให้ผู้คนพูดถึงและซื้อ
อย่าหยุดอยู่แค่เพียงน้ำหอม กลิ่นเหล่านี้ยังสามารถใช้กับเทียน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว สเปรย์ปรับอากาศ หรืออะไรก็ได้ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ยิ่งร้านค้าปลีกนำเสนอกลิ่นเฉพาะตัวเหล่านี้มากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น
เคล็ดลับที่จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถก้าวเข้าสู่กระแสนี้ได้
ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอนที่ผู้ค้าปลีกสามารถดำเนินการเพื่อใช้ประโยชน์จากเทรนด์ Scent Surrection:
1. ค้นหาคู่ค้าที่เหมาะสม
ลองมองหาบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น Ginkgo Bioworks หรือ Sensegen ซึ่งพวกเขาทำวิทยาศาสตร์อย่างจริงจังอยู่แล้ว ดังนั้นธุรกิจต่างๆ จึงสามารถมุ่งเน้นที่การนำผลงานสร้างสรรค์ของตนไปให้ลูกค้าได้
2. ขยายสายผลิตภัณฑ์
อย่ายึดติดกับน้ำหอมเพียงอย่างเดียว ให้คิดให้กว้างขึ้น เช่น เทียนหอม น้ำหอมปรับอากาศ โลชั่นทาตัว ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันสามารถดึงดูดใจผู้อื่นได้หลากหลายมากขึ้น
3. ให้ความรู้แก่ลูกค้า
ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจว่ากลิ่นที่ผลิตในห้องแล็ปทำงานอย่างไร ซึ่งก็ไม่เป็นไร ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายเพื่ออธิบาย และเน้นที่ประโยชน์ ได้แก่ ยั่งยืน หายาก และเป็นของแท้ 100%
4. เน้นเรื่องราว
กลิ่นแต่ละกลิ่นมีประวัติความเป็นมา แบ่งปันเรื่องราวเหล่านี้ให้คนอื่นรู้ อย่าลืมว่าเรื่องราวต่างๆ จะช่วยขายได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวสั้นๆ บนเว็บไซต์ของบริษัทหรือเรื่องราวสนุกๆ บนบรรจุภัณฑ์
5. ซื่อสัตย์เกี่ยวกับกระบวนการ
ความโปร่งใสสร้างความไว้วางใจ หากลูกค้ามีข้อกังวลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในห้องแล็ป ให้แก้ไขและแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเหตุใดกลิ่นเหล่านี้จึงดีต่อสิ่งแวดล้อมและหรูหราไม่แพ้กัน
บรรทัดล่าง
Scent Surrections นำเสนอสิ่งที่อาจก้าวข้ามการเป็นกระแสนิยม มันคือแนวคิดใหม่เกี่ยวกับน้ำหอม สำหรับผู้ค้าปลีก นี่คือโอกาสที่จะนำเสนอสิ่งที่มีความหมาย ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะ กลิ่น และความรู้สึกพิเศษ
นอกจากนี้ ยังช่วยให้ลูกค้าได้สัมผัสกับธรรมชาติในแบบที่ไม่เคยคิดว่าเป็นไปได้ และในปี 2025 เทรนด์นี้ก็จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์ของคุณจะเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์นี้หรือไม่ หากดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้ ผู้ค้าปลีกจะสามารถนำเสนอกลิ่นหอมที่สร้างสรรค์และน่าจดจำได้