Kia เปิดตัว Kia EV3 ใหม่ ซึ่งเป็นรถยนต์ SUV ขนาดเล็กที่ใช้พลังงานไฟฟ้า EV3 มีขนาดยาว 4,300 มม. กว้าง 1,850 มม. สูง 1,560 มม. และมีฐานล้อ 2,680 มม. โดยมาพร้อมระบบส่งกำลังไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าที่ใช้แพลตฟอร์ม Electric Global Modular Platform (E-GMP) ซึ่งใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นที่ XNUMX ของ Kia

รุ่น EV3 Standard มีจำหน่ายเฉพาะแบตเตอรี่ขนาด 58.3 กิโลวัตต์ชั่วโมงเท่านั้น ในขณะที่รุ่น EV3 Long Range มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 81.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทั้งสองรุ่นใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์/283 นิวตันเมตร ซึ่งช่วยให้เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุดของ EV3 คือ 170 กม./ชม. (106 ไมล์/ชม.)
EV3 มาพร้อมระบบอากาศพลศาสตร์ของตัวถังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยผสานหลังคาแบบ 3 มิติเต็มรูปแบบเพื่อให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.263 Cd เทคโนโลยี Battery Management Unit (BMU) และ Cell Monitoring Unit (CMU) ช่วยให้ระบบแบตเตอรี่แรงดันสูงขนาด 58.3 กิโลวัตต์ชั่วโมงและ 81.4 กิโลวัตต์ชั่วโมงใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
EV3 Long Range มีระยะวิ่งโดยประมาณสูงสุด 600 กม. (373 ไมล์) (WLTP)
Kia ได้ติดตั้ง EV3 ไว้ด้วยคุณสมบัติความปลอดภัยขั้นสูง การขับขี่ ความสะดวกสบาย และการชาร์จที่ปกติแล้วจะจำกัดไว้เฉพาะในกลุ่มรถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เทคโนโลยี Advanced Driving Assistance Systems (ADAS) ของรถประกอบด้วย eDTVC Electric Dynamic Torque Vectoring Control เพื่อให้แน่ใจว่า EV3 จะถ่ายโอนพลังงานไปยังถนนได้อย่างราบรื่นและเสถียร ระบบป้องกันการชนด้านหน้า ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง และระบบป้องกันการชนขณะจอดถอยหลัง มอบการสนับสนุนและความมั่นใจเพิ่มเติมให้กับผู้ขับขี่ในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะสั้นหรือยาวเพียงใดก็ตาม

ระบบช่วยจอดอัจฉริยะระยะไกลของ Kia ช่วยให้เจ้าของรถสามารถบังคับรถ EV3 เข้าและออกจากพื้นที่แคบๆ ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยโดยที่คนขับไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ในรถ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มมูลค่าให้กับรถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กด้วย Head-up Display (HUD) ขนาด 12 นิ้ว ซึ่งจะฉายข้อมูลบนกระจกหน้ารถเพื่อลดการรบกวนสมาธิของผู้ขับขี่
EV3 เป็นรุ่นแรกที่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีเบรกแบบสร้างพลังงานใหม่ i-Pedal 3.0 ของ Kia ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับระดับเบรกแบบสร้างพลังงานใหม่ได้ตามต้องการ ทำให้สามารถขับขี่ด้วยแป้นเหยียบเดียวได้ เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุดและลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ทางไกลได้อย่างเห็นได้ชัด ทำให้รถสามารถเดินทางได้ไกลขึ้นด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว ทำให้การเดินทางมีความน่าสนใจ สนุกสนาน และสะดวกสบายมากขึ้น
Kia เป็นผู้ผลิตรายแรกที่นำระบบชาร์จ Vehicle-to-Load (V3L) มาใช้กับรถยนต์ SUV EV ขนาดกะทัดรัด โดยให้ผู้ใช้รถมีความอิสระและความยืดหยุ่นในการชาร์จไฟอุปกรณ์ภายนอก เช่น แล็ปท็อป ตู้เย็นขนาดเล็ก เครื่องชงกาแฟ หรือไดร์เป่าผม Digital Key 2 ของ Kia ช่วยให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในการพกกุญแจจริงติดตัวด้วยการปลดล็อกและสตาร์ท EV2.0 โดยใช้เพียงสมาร์ทโฟนหรือสมาร์ทวอทช์ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถแชร์กุญแจดิจิทัลของ EV3 กับเพื่อนและครอบครัวได้อย่างสะดวกอีกด้วย
EV3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่มีเทคโนโลยี AI Assistant ของ Kia ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ในรถยนต์ซีดานขนาดกะทัดรัด Kia K4 เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถโต้ตอบและควบคุมฟีเจอร์ต่างๆ ของรถยนต์ได้โดยตรงและอย่างชาญฉลาด ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระหว่างที่อยู่บนรถยนต์ Kia จะเริ่มนำฟีเจอร์เหล่านี้ไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ในเร็วๆ นี้ โดยเริ่มจาก EV3
ด้วยการผสานรวมของ AI เชิงสร้างสรรค์ ทำให้ผู้ช่วยเสียงของ Kia มีความสามารถมากยิ่งขึ้น AI เชิงสร้างสรรค์เข้าใจบริบทที่ซับซ้อนผ่านความเข้าใจภาษาธรรมชาติ ทำให้สามารถสนทนากับผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผู้ช่วย AI สามารถรองรับการวางแผนการเดินทางพร้อมแนะนำลูกค้าให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากฟังก์ชันต่างๆ ของรถยนต์ รวมถึงความบันเทิงและการค้นหาข้อมูล
Kia มีแผนที่จะขยายบริการและโดเมนของ AI Assistant ในยุโรป โดยจะนำไปปรับใช้ในการผลิตจำนวนมากในเกาหลีใต้เป็นอันดับแรก เทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและจะมอบประโยชน์เพิ่มเติมให้กับลูกค้าในอนาคต
EV3 จะเปิดตัวครั้งแรกในเกาหลีในเดือนกรกฎาคม 2024 ตามด้วยการเปิดตัวในยุโรปในช่วงครึ่งปีหลัง Kia มีแผนที่จะขยายการขาย EV3 ไปยังภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวครั้งต่อไปหลังจากเข้าสู่ตลาดยุโรป
ที่มาจาก กรีนคาร์คองเกรส
ข้อสงวนสิทธิ์: ข้อมูลที่ระบุไว้ข้างต้นจัดทำโดย greencarcongress.com โดยเป็นอิสระจาก Cooig.com Cooig.com ไม่ได้เป็นตัวแทนและรับประกันคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผู้ขายและผลิตภัณฑ์