หน้าแรก » การจัดหาผลิตภัณฑ์ » ความงามและการดูแลส่วนบุคคล » ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิก: แนวโน้มและข้อมูลเชิงลึกของตลาดสำหรับปี 2025
ที่ม้วนผม 1 อัน ด้ามจับสีชมพู

ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิก: แนวโน้มและข้อมูลเชิงลึกของตลาดสำหรับปี 2025

ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิกได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากเทรนด์ความงามที่เปลี่ยนแปลงไปและอิทธิพลของโซเชียลมีเดียที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเราเข้าสู่ปี 2025 ตลาดของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังคงขยายตัวต่อไป โดยเปิดโอกาสที่ทำกำไรให้กับผู้ซื้อทางธุรกิจ รวมถึงผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่ง บทความนี้จะเจาะลึกถึงกระแสฮือฮาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิก สำรวจศักยภาพทางการตลาด และเทรนด์ที่มีอิทธิพลต่อความต้องการ

สารบัญ:
– สำรวจกระแสฮือฮาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิก
– แนวโน้มตลาดหลักในผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิก
– บทสรุป: อนาคตของผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิกในอุตสาหกรรมความงาม

สำรวจกระแสฮือฮาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิก

แปรงผมสีชมพูและสีดำ 2 อันสำหรับผมสีบลอนด์ยาวหยิก

การกำหนดผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิกและศักยภาพทางการตลาด

ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิกประกอบด้วยผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อเสริมและดูแลเนื้อผมหยิก ได้แก่ ครีมจัดแต่งทรงผมหยิก เจล มูส และเซรั่ม ซึ่งแต่ละชนิดได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อให้ลอนผมเป็นลอน ลดผมชี้ฟู และจัดทรงได้ ตามรายงานล่าสุด ตลาดผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมคาดว่าจะเติบโต 5.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ปี 2023 ถึงปี 2028 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 5.39% การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมและการขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจแฟชั่นที่เพิ่มมากขึ้น

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดเทรนด์ความงาม และผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิกก็ไม่มีข้อยกเว้น แฮชแท็ก เช่น #CurlyHairDontCare, #CurlGoals และ #NaturalCurls ได้รับความนิยมหลายล้านโพสต์ สร้างชุมชนที่มีชีวิตชีวาของผู้ที่มีผมหยิกที่แชร์เคล็ดลับการจัดแต่งทรงผมและคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ผู้ทรงอิทธิพลและผู้ที่ชื่นชอบความงามมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นความต้องการ เนื่องจากการรับรองและบทแนะนำของพวกเขาเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก ส่งผลให้มีการนำผลิตภัณฑ์เฉพาะมาใช้ ยอดขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นซึ่งได้รับแรงหนุนจากการตลาดโซเชียลมีเดีย ทำให้ศักยภาพทางการตลาดของผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิกขยายตัวมากขึ้น

ความต้องการผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิกสอดคล้องกับเทรนด์ความงามที่กว้างขึ้นซึ่งเน้นส่วนผสมจากธรรมชาติและออร์แกนิก ผู้บริโภคกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีอันตรายมากขึ้น โดยเลือกใช้สูตรที่บำรุงและปกป้องเส้นผม การเปลี่ยนแปลงไปสู่ความงามที่สะอาดเป็นแรงผลักดันที่สำคัญของการเติบโตของตลาด เนื่องจากแบรนด์ต่างๆ คิดค้นนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้ นอกจากนี้ กระแสของการยอมรับเนื้อผมตามธรรมชาติและการเฉลิมฉลองความหลากหลายในมาตรฐานความงามยังส่งผลต่อความนิยมของผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิก เมื่อผู้คนจำนวนมากยอมรับลอนผมตามธรรมชาติของตนเอง ความต้องการผลิตภัณฑ์เฉพาะทางที่ตอบสนองประเภทและเนื้อผมที่หลากหลายจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยสรุป ตลาดผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิกในปี 2025 มีโอกาสเติบโตอย่างมาก ซึ่งขับเคลื่อนโดยอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย เทรนด์ความงามที่เปลี่ยนแปลงไป และความต้องการผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและออร์แกนิกที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ซื้อทางธุรกิจในอุตสาหกรรมความงามสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เพื่อเจาะตลาดที่มีพลวัตนี้ ตอบสนองความต้องการของฐานผู้บริโภคที่หลากหลายและทันสมัย

แนวโน้มตลาดหลักในผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิก

แปรงผมสีชมพูและสีดำ 2 อัน

กระแสผมหยิกบูม: จากคลื่นเป็นลอน

ตลาดผมหยิกกำลังฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หันมานิยมผมหยิกตามธรรมชาติ เทรนด์นี้ครอบคลุมถึงเนื้อผมต่างๆ ตั้งแต่ผมหยิกเป็นลอนหลวมๆ ไปจนถึงผมหยิกเป็นลอนแน่น ตามรายงานจากผู้เชี่ยวชาญ การค้นหาคำว่า “ผมดัดเป็นลอน” ใน Google ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7% ในปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความสนใจในผมดัดกลับมาอีกครั้ง เทรนด์นี้โดดเด่นเป็นพิเศษในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเอฟเฟกต์ผมดัดเป็นลอนอ่อนๆ กำลังได้รับความนิยม แบรนด์ต่างๆ เช่น Arimino ได้ใช้ประโยชน์จากเทรนด์นี้โดยออกผลิตภัณฑ์ เช่น Poppin' Fig สำหรับการดูแลหลังดัดผม ซึ่งรวมถึงแชมพูลดแรงตึงผิวที่อ่อนโยนและมาส์กบำรุงผมอย่างล้ำลึก

ความโค้งมนของลอนผมเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการเติบโตอย่างมาก Coily Haircare Trendcurve ของ WGSN ระบุถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องในการสนทนาทางโซเชียลที่กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยจัดทรงลอนผม ผู้บริโภคกำลังมองหาวิธีที่จะปรับกิจวัตรการดูแลผมหยิกให้เหมาะสม ซึ่งนำไปสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น แปรงจัดทรงลอนผม EdgeLift ของ Bounce Curl ที่มีขอบหยักเพื่อแยกลอนผมออกจากกัน นอกจากนี้ ครีมจัดทรงลอนผมยังได้รับความนิยม เนื่องจากผู้บริโภคต้องการให้ผมหยิกเป็นลอนหลังจากสระผมไปแล้วหนึ่งวัน Wavy แบรนด์สัญชาติอังกฤษได้เปิดตัวครีมจัดทรงลอนผมที่ใช้งานง่าย โดยมุ่งเป้าไปที่ตลาดการดูแลผมสำหรับผู้ชาย ซึ่งช่วยขยายการเข้าถึงกลุ่มประชากรของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้มากขึ้น

กลับสู่พื้นฐาน: เครื่องมือและเทคโนโลยีสำหรับผมแบบ Pro-Ordinary

เมื่อกระแสแฟชั่นเริ่มเข้ามามีบทบาท กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจึงเริ่มหันมาใช้เครื่องมือทั่วไปที่เปลี่ยนงานบ้านประจำวันให้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่เข้าถึงได้และดูแลรักษาง่าย การค้นหาแปรงหวีใน Google เพิ่มขึ้นทั่วโลก 14% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยผู้บริโภคมองหาแปรงหวีที่ดีที่สุดสำหรับประเภทและเนื้อผมเฉพาะ ส่งผลให้มีแปรงหวีเฉพาะกลุ่มที่ตอบโจทย์การดูแลเส้นผมเฉพาะบุคคลเพิ่มขึ้น ทำให้การดูแลรักษาที่จำเป็นกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ให้ความแวววาว แบรนด์ฝรั่งเศส Officine Universelle Buly นำเสนอการแกะสลักแบบเฉพาะตัวบนแปรงและหวี ทำให้แปรงและหวีเหล่านี้กลายเป็นของสะสม

ไดร์เป่าผมลดความเสียหายก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เครื่องมือจัดแต่งทรงผมและไดร์เป่าผมจะต้องมีเวลาในการเป่าผมที่เร็วขึ้นพร้อมความเสียหายน้อยที่สุด Dyson ได้อัปเกรดไดร์เป่าผม Supersonic ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขายดีด้วยเทคโนโลยีปกป้องเส้นผม โดยผสานรวม AI เพื่อเรียนรู้ความชอบในการจัดแต่งทรงผมของผู้ใช้และทำให้การใช้งานในครั้งต่อไปง่ายขึ้น ความร้อนอินฟราเรดกำลังกลายเป็นมาตรฐานทองคำของไดร์เป่าผม โดย L'Oréal เตรียมเปิดตัวไดร์เป่าผม AirLight Pro ที่ก้าวล้ำซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ ความก้าวหน้าเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงกิจวัตรประจำวันด้วยผลิตภัณฑ์ที่เข้าอกเข้าใจและใช้งานง่ายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการเครื่องมือดูแลเส้นผมที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น

การดูแลเส้นผมแบบ 'ขี้เกียจ': เพื่อนคู่ใจที่มักนอนกรน

แนวคิดเรื่องการดูแลเส้นผมแบบ "ขี้เกียจ" เกิดขึ้นจากความต้องการวิธีแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมพันกัน ซึ่งได้เปลี่ยนเตียงนอนให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนเพื่อสุขภาพที่ดี ผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับการดูแลเส้นผมแบบตามใจชอบที่สามารถใช้ได้ขณะพักผ่อน ปลอกหมอนผ้าไหมและเครื่องนอนที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเป็นตัวอย่างของเทรนด์นี้ โดยนำเสนอทางเลือกในการดูแลอย่างล้ำลึกโดยไม่ทำให้ผ้าปูที่นอนเปื้อน ตัวอย่างเช่น Steaming Cap ของ Steam Bar สามารถอุ่นผมในไมโครเวฟก่อนใช้งานเพื่อให้ความร้อนอย่างอ่อนโยน เป็นทางเลือกในการดูแลเส้นผมที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ

ผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์เป็นปัจจัยสำคัญในเทรนด์นี้ ผู้ซื้อกำลังมองหาผลลัพธ์สูงสุดจากผลิตภัณฑ์ที่มีปัจจัยนำเข้าน้อยที่สุด ซึ่งนำไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์ที่สามารถใช้ได้ในห้องอาบน้ำหรือขณะงีบหลับโดยไม่กระทบต่อผลลัพธ์ ซึ่งรวมถึงแชมพูฟื้นฟูผมแบบไม่ต้องล้างออกและมาส์กผมข้ามคืนที่รวมคุณประโยชน์ในการดูแลเส้นผมไว้ด้วยกันมากที่สุดในผลิตภัณฑ์เดียว โดยเน้นที่การฝังความสะดวกในการใช้งานในทุกแง่มุมของการออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีความเครียดเรื้อรังซึ่งต้องการผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านสุขภาพ

การดูแลเส้นผมให้มีอายุยืนยาว: สุขภาพหนังศีรษะระดับเซลล์

ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอายุยืนทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่า 33 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2026 โดยได้รับอิทธิพลจากหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ความวิตกกังวลเรื่องอายุเป็นแรงผลักดันความสนใจในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ช่วยให้ผมดูหนาขึ้นและดูอ่อนเยาว์ขึ้นเป็นเวลานานขึ้น ความเครียดระบาดทำให้ผมร่วงเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มประชากร เพศ และภูมิภาค ในเอเชียตะวันออก ซึ่งโดยทั่วไปผมร่วงน้อยกว่า การสำรวจในปี 2022 พบว่าผู้ชายเกาหลี 36% มีปัญหาผมบาง ส่งผลให้เกิดการบรรจบกันของการดูแลสุขภาพและการแพทย์ ส่งผลให้เกิดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแบบองค์รวมรุ่นใหม่ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีวิตามินบี 12 ไปจนถึงเครื่องมือเทคโนโลยี เช่น มาส์กหนังศีรษะ LED และเซรั่มหนังศีรษะที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ

อิทธิพลของความงามระดับมืออาชีพยังแผ่ขยายไปยังหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอีกด้วย วัฒนธรรมการปรับแต่งทำให้ขั้นตอนต่างๆ เช่น การปลูกผมและการฉีดพลาสม่าที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือด (PRP) บนหนังศีรษะกลายเป็นเรื่องปกติ แบรนด์ต่างๆ กำลังใช้ภาษาการปรับแต่งเพื่อระบุผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยเทรนด์เช่น Hair Botox ที่ได้รับความนิยมบน TikTok เป็นคำศัพท์ทั่วไปสำหรับการบำบัดบำรุงล้ำลึกที่ให้ผลลัพธ์เหมือนผมกระจก จุดเน้นอยู่ที่การสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหนังศีรษะที่มุ่งเป้าไปที่การเจริญเติบโตของเส้นผมและสุขภาพในระยะยาวในระดับเซลล์ โดยผสานรวมเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ให้เข้าไปลึกถึงหนังศีรษะมากขึ้น

เคล็ดลับดูแลผมในอากาศร้อน: รับมือกับความร้อน

เนื่องจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ผู้บริโภคจึงปรับเปลี่ยนวิธีการจัดแต่งทรงผม แทนที่จะต่อสู้กับสภาพอากาศที่ร้อน ผู้บริโภคจึงหันมาใช้ทรงผมที่ดูไม่สมบูรณ์แบบแทน ครีมบำรุงผมแบบแห้งเองได้รับความนิยมในการค้นหาบน Google ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 14% ในปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงผลักดันจากผู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ครีมบำรุงผมแบบแห้งเองของ JVN การตัดผมแบบเปียกชื้นที่ใช้เลเยอร์สั้นๆ ให้ดูยุ่งเหยิง และเทรนด์ #WetLookHair ได้รับความนิยมในฐานะทางเลือกในการจัดแต่งทรงผมแบบไม่ใช้ความร้อนและไม่ต้องดูแลมาก

การจัดแต่งทรงที่ไม่ละลายเป็นอีกกระแสหลัก ผู้บริโภคเลือกทำผมมวยเรียบ ถักเปีย หรือม้วนผมเป็นปมสำหรับผมแอฟโฟรเพื่อไม่ให้ผมมาปิดหน้าในสภาพอากาศที่รุนแรง ผลิตภัณฑ์ที่ปกป้อง บำรุง และป้องกันผมชี้ฟู เช่น ไม้จัดแต่งทรงแบบพกพาและอุปกรณ์จัดแต่งทรงในตัวกำลังได้รับความนิยม แบรนด์ Narka ของญี่ปุ่นนำเสนอแท่งมาสคาร่า Hard Fix Hair ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแอฟโฟรพร้อมปรับสูตรให้เหมาะกับลักษณะผมของชาวเอเชียตะวันออกโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศีรษะและเส้นผมยังใช้ประโยชน์จากกระแสการบำบัดด้วยความเย็นเพื่อช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายตั้งแต่ศีรษะลงไป

บทสรุป: อนาคตของผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิกในอุตสาหกรรมความงาม

ตลาดผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหยิกกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เนื่องมาจากรูปแบบลอนผมธรรมชาติที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เครื่องมือและเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์ รวมถึงการเน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์หลากหลายและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ผู้บริโภคยังคงแสวงหาโซลูชันเฉพาะบุคคลและมีประสิทธิภาพ อุตสาหกรรมนี้จึงพร้อมที่จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการนำเทรนด์เหล่านี้มาใช้และแก้ไขปัญหาของผู้บริโภค แบรนด์ต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากตลาดที่กำลังขยายตัวและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ซื้อทางธุรกิจในอุตสาหกรรมความงามและการดูแลส่วนบุคคลได้

แสดงความคิดเห็น

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่ ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

เลื่อนไปที่ด้านบน